วิ่ง (14) | Pla2 Mini Marathon ครั้งที่ 3
Pla2 Mini Marathon ครั้งที่ 3 เป็นรายการแรกที่เรียกได้ว่า ลงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว (ภูเก็ตมาราธอน และ Human Run ไม่ได้ลง) เป้าหมายง่ายมาก ต้องการทำลายสถิติ
ตั้งแต่วิ่งปีที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลง 2 เรื่อง
- หยุดซ้อมไปประมาณ 3 เดือน เพราะเจ็บ ITB
- เริ่มซ้อมแบบใหม่ด้วย Endurance Base Training (หรือที่คนเรียกกันว่าการซ้อมวิ่ง Zone 2)
ผลออกมาดีกว่าปีที่แล้ว ไม่ดีเท่าที่คิดไว้
ถ้าไม่นับเรื่องเวลา ข้อมูลจาก Garmin แสดงให้เห็นว่า เรื่องของ Heart Rate พัฒนาขึ้นมาก จากปีก่อน 185bpm เหลือ 154bpm สิ่งที่ตามมาคือ Calories ที่ใช้ลดจาก 721 C เหลือ 554 C เท่านั้น (ลดลง 23%)
เจาะลงมาที่ Heart Rate
ปี 2016 Hart Rate Zone ที่ใช้น่ากลัวมากทีเดียว 85% วิ่งอยู่ทีโซน 5!
ปี 2017 กลายเป็น 52% ของการวิ่งมาอยู่ที่โซน 3
ส่วนเรื่องขอสถิติ ภาพรวมแล้วปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วแค่ 3 วินาที ส่วนนึงเพราะระยะทางที่ต่างกันนิดหน่อย แต่ถ้านับเฉพาะ 10k ทำเวลาได้ดีกว่าปีที่แล้วและได้ PR ด้วย
ปี 2016 10K อยู่ที่ 56.48 นาที
ปี 2017 10K อยู่ที่ 55.42 นาที ดีกว่าเดิม 1 นาที 6 วินาที น่าผิดหวังนิดหน่อย
สรุป
- วิ่งรอบนี้ทำให้เห็นผลของการ Endurance Base Training ที่อดทนและส่งสัยมาตลอดว่าการวิ่งช้าๆที่แสนน่าเบื่อนี้จะส่งผลต่อร่างกายเรายังไง
- เรื่องที่เพิ่งรูปก็คือ แม้หัวใจเราจะเต้นช้าลง แต่เรายังเหมือนเหมือนเดิมแฮะ แปลกจัง
- ที่เข้าใจเองคือ แม้ร่างกายจะใช้พลังงานน้อยลง แต่ก็ต้องอาสัยแรงของกล้ามเนื้อในการเคลือนไหวอยู่ดี
- Endurance Base Training นั้น ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นแค่พื้นฐาน (แน่นอนว่าพื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญ)
- แต่ การฝึกรูปแบบอื่นเช่น Intervals, Treashold หรือแม้กระทั้ง Cross Training ก็สำคัญในการเพิ่มความเร็ว
เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียวจะต้องไปวิ่งจอมบึงมาราธอนแล้ว เป้าหมายเดิมคือต้องการเข้าเส้นชัยภายใน 2 ชม.ให้ได้ ซึ่งหลังจากวิ่ง 10K ใช่เวลา 55.42 นาทีด้วยความเหนื่อยขนาดนี้ คิดไม่ออกเลย ว่า 20.098K จะทำ Sub 2 ได้ยังไง บ้าจริง