วิ่ง (17) | มาราธอนครั้งแรก

ความผิดพลาดที่สำคัญของการวิ่งมาธอนรอบนี้ คือการไม่มีประสบการณ์ และยังเอาประสบการของฮาล์ฟมาราธอนมาใช้อีก

แผนคือ 5 กม. แรกวิ่ง Pace 7 15 กม.ต่อมาวิ่ง Pace 6:30 อีก 22 กม.ที่เหลือวิ่ง Pace 6.15 ถ้าทำได้ตามนี้ จะเข้าเส้นชัยภายใน 4 ชม. 30 นาที ซึ่งมันก็น่าจะเป็นไปได้นะ เพราะสถิติที่ดีที่สุดของฮาล์ฟมาราธอนคื 1 ชม. 55 นาที

กม. 1-5:
อากาศเย็นปวดฉี่อีกแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งฉี่ไป ส่วนเรื่องการวิ่งนั้นเบาสบายมาก วิ่งด้วย Pace 7 ไปเรื่อยๆ

กม. 6-15:
แวะเข้าห้องน้ำเรียบร้อย (จริงๆคือฉี่ข้างทางนะ) วิ่ง Pace 6.30 ด้วยความสบาย ไม่มีปัญหา เริ่มกินเจลครึ่งถุงแรก วิ่งแซง Pacer 4.30 ไปแล้ว

กม. 16-19:
ทางเริ่มชันขึ้น และนี่คือจุดเปลี่ยนเลย เพราะซ้อมแต่ทางเรียบอย่างเดียว เคยอ่านเจอว่า เวลาวิ่งทางที่ค่อนข้างชัด ร่างกายจะใช้กล้ามเนื้อคนละส่วนกับการวิ่งทางเรียบ 5 กมนี้ทำให้รู้สึกเจ็บที่ขาหนีบ โดน Pacer 4.30 แซงไปเรียบร้อย

กม. 20-21:

เหมือนโดนปิดสวิทต์ ข้อเท้า หัวเข่าเริ่มเจ็บ เร่งความเร็วไม่ขึ้นเพราะเป็นทางที่มีขึ้นลงสลับกัน กินเจลครึ่งถุงที่เหลือ ระยะนี้มีพระมาพรมน้ำมนต์อยู่ระหว่างทางด้วย และบอกว่าครึ่งทางแล้วโยม ไม่รู้ว่าเป็นกำลังใจหรือบั่นทอนมากกว่ากัน

กม. 22-24:
หลัง 21 กม. คือโลกใหม่ที่ยังไม่เคยพบมาก่อนในการลงงานจริง ไม่รู้สึกว่าเหนื่อยเลย เหงื่อแทบจะไม่ออก แต่ร่างกายเหมือนไม่ได้เป็นของเราซะแล้ว ต้องวิ่งสลับเดิน กว่าจะออกตัวไปได้เรียกว่าปลุกปล้ำกันสุดๆ พอเห็นป้าย 21 กม.แล้ว Pacer 5:00 แซงไปเรียบร้อย ลุงๆป้าเริ่มวิ่งแซงกันไป สภาพนี้จินตนาการไม่ออกเลยว่าจะวิ่งจบได้ยังไง กินเจลถุงที่ 2 จนหมดถุง

กม. 25-30:
กลับตัว เข้าห้องน้ำอีกรอบ อากาศยังเย็น เดินเยอะขึ้น เหงื่อแห้ง ปวดที่ข้อต่อ และฝ่าเท้า หัวเข่า จมอยู่กับความห่วยของตัวเอง การวิ่งฮาล์ฟได้ดีมันคนละเรื่องกับมาราธอนเลยโว้ย เคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่ามาราธอนมันไม่ใช่การวิ่งฮาล์ฟ 2 รอบนะ เข้าใจแล้วว่ามันหมายความว่ายังไง

กม.ที่ 30-32:
พระอาทิตย์ขึ้น อากาศอุ่นขึ้น พบนักศึกษาอาสาสมัคร เอาน้ำแข่งมาประคบ และนวดขาให้ รู้สึกเหมือนได้ขาใหม่ เริ่มกลับมาวิ่งได้ต่อเนื่องอีกครั้ง ตัดสินใจกินเจลถุงสุดท้าย

กม.ที่ 33-38:
วิ่งไปได้อย่างต่อเนื่องที่ Pace 8 มีความต่อเนื่องบางอย่าง ร่างการเคลื่อนไหวไปได้เรื่อย ต่อเนื่อง นุ่มนวล มี Pacer 5:30 ตามมาทันพอดี เลยตัดสินใจเกาะเค้าไปเรื่องๆ เป้าหมายคือเข้าก่อน 5:30 การวิ่งกับกลุ่ม Pacer ทำให้เราวิ่งได้ต่อเนื่องมากกว่าเดิม เพราะอยู่ในกลุ่มคนวิ่งที่เป็น Pace เดียวกัน แดดเริ่มร้อน พระอาทิตย์อยู่ตรงหน้าพอดี หยิบแว่นมาใช้งาน Heart Rate เริ่มขยับไปที่โซน 4

กม.ที่ 39 – 40:
Pacer 5:30 เริ่มชะลอ เลยวิ่งแซงขึ้นไปเพราะต้องการรักษา Pace 8 เหมือนเดิม แดดแรงมากๆ ร้อนมาก แต่การวิ่งยัง Flow อยู่ ไปได้เรื่อยๆ มีพักเดินตอนกินน้ำบ้าง

กม.ที่ 41 – 42.195:
อีกกิโลเดียว พอคิดได้แบบนี้ปุ๊บ ร่างการเหมือนปิดสวิทต์อีกรอบ ข้อเท้าและหัวเข้าเหมือนมีลูกปิงปองอยู่ข้างใน ทุกครั้งที่ขยับเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แดดร้อนขึ้นเรื่องๆ สิ่งที่ทำได้แค่วิ่งไปเรื่อยๆ มองไปที่ระยะ 10 เมตรข้างหน้า และพาตัวเองไปถึงตรงนั้นให้ได้ วนซ้ำไปมาเรื่อยๆ ก่อนถึงเส้นชัย เห็นป้ายดิจิตอลเขียนว่า 5:29:30 เหมือนเป็นเวลา Cut Off ของระยะฮาล์ฟมาราธอน ทุกคนเริ่มเคาท์ดาวน์กัน เราก็รวบรวมกำลังทั้งหมดที่มี วิ่งเข้าเส้นชัยไปพร้อมเวลา 5:29:55

 

Sorry, the comment form is closed at this time.